วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

:: Review ครั้งที่ห้า :: กับ EUCERIN WHITE THERAPY CLINICAL น้องใหม่ล่าสุดของไลน์ ไวท์เทราปี้ มันจะดีมั้ยน้าา !!

:: Eucerin White Therapy ::

               เนื่องจากเราเป็นสิวอักเสบอยู่มากเพราะเป็นคนผิวแพ้ง่าย พอหายสิวก็เลยต้องเสาะหาครีมประทินผิวต่างๆมาช่วยลดรอยดำสิวบนใบหน้าของเรา เราก็ได้ลองใช้มาหลายยี่ห้อมาก โดยซื้อตามร้านขายยา เช่น ครีมเอเอชเอ,ครีมวิตามินอี แต่ก็ไม่ได้ผลค่ะ จากนั้นก็ได้ไปหาหมอรักษาสิว หมอก็ให้ยาลดรอยสิวมาให้ใช้อีก ก็นั่นแหละ แสบหน้ามาก แต่หลังจากใช้ไปหน้าก็ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ แต่หยุดใช้ไม่ได้เลย ( แบบนี้หน้าก็บางไปหมดสิ เพราะกรดวิตามินเอ มันทำให้หน้าบ้างใช่มั้ย ) เอาหล่ะ ทำยังไงดี !! เราคิดมาคิดไปคิดไปคิดมา โป๊ะเช้ะ !! นั่งดูเว็บยูเซอรีน เจอกับของดีเลยค่ะ 
               เจอเจ้าเซตสำหรับลดเลือนรอยหมองคล้ำบนใบหน้าหรือรอยดำสิวโดยไม่ทำให้ผิวหน้าบางลง กรี๊ดดด !! ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เหมือนสวรรค์มาโปรดสิคะ ดูในเว็บเค้าบอกว่าถ้าเกิดซื้อสินค้าเกิน สองพันบาทขึ้นไป จะได้รับชุดกิ๊ฟเซ็ตอีก อุ้ย แถมของฟรีนี่ ชอบเลยค่ะ 5555 วันรุ่งขึ้นก็เดินไปขอเงินคุณพ่อเลย เพื่อที่จะไปรับเจ้าชุดนี้กลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านค่ะ :D




               เนื่องจากราคาของเจ้าเซตนี้มันไม่เบาเลยจริงๆ เราจึงจัดมาแค่สองตัวเองค่ะ แฮ่ๆๆ ( ราคานี้เด็กนักศึกษาหาเงินไม่ได้อย่างเราคงซื้อเองทั้งเซ็ตไม่ไหว ฮือๆๆ ) ส่วนประกอบหลักของมันก็จะมี B-resorcinol ที่พรีเซ็นต์ว่าช่วยในการยับยั้งเอนไซม์ที่สร้างเม็ดสีเมลามิน 2 ชนิด และ Glyceritinic acid ที่ช่วยฟื้นบำรุงและลดเซลล์ผิวคล้ำเสียที่ถูกทำร้านจากแสงแดดได้เพิ่มขึ้นอีก 40% อธิบายมา ไม่รู้จักสักตัว 555


มาเริ่มที่ตัวแรกเลยแล้วกันค่ะ



ชื่อผลิตภัณฑ์ :: Eucerin White Therapy Concentrate Serum ( ตัวนี้เป็นที่เด็ดของเซ็ตนี้เลยก็ได้ว่าได้ )
ขนาด :: 30 ml. มี 2 หลอด หลอดละ 5 ml. 
ค่าตัว :: ราคาเต็ม 2210 บาท แต่ได้ส่วนลดจากทางร้าน ลดเหลือ 1990 บาทค่ะ

               เริ่มด้วยแพคเกตของมันก่อนนะคะ ตัวครีมบรรจุใส่หลอดเล็กๆมาซะสวยงาม แต่เราว่ามันยุ่งยากไปนะ น่าจะทำใส่ขวดแบบหัวปั้มแบบรุ่นก่อนๆ มาขวดเดียวก็พอ จะได้พกง่าย ใช้ง่ายหน่อย แต่ช่างเถอะ ซื้อมาแล้วเอาไปเปลี่ยนก็ไม่ได้ละ 5555 มาดูเนื้อครีมกันดีกว่า อย่างในภาพนะคะ เนื้อครีมเบาบางมากกกกกกกก ( ดูจากการลากเสียง ) พอแต้มลงบนหน้าแล้วทาๆ โอ้โห !! ซึมเข้าผิวได้รวดเร็วมากค่ะ แถมเกลี่ยง่ายอีกด้วย เหมาะกับสภาพอากาศของบ้านเราจริงๆ เพราะว่าพอทาเสร็จแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะเลย ทาปุ้ป ซึมปั้ป เราก็ทา เช้า - เย็น เป็นประจำ เรื่องความขาวล่ะ ? หลังจากใช้ไปได้สักพักหนึ่ง ใบหน้าดูเปล่งปลั้งขึ้นมามากเลยทีเดียว อันนี้ไม่อุปทานเหมือนสมูทอีแล้วค่ะ 5555 ถือว่าผ่านเลยตัวนี้ ถูกใจมาก แต่ติดตรงว่า มันแพงน่ะสิ เดี๋ยวไว้จะเอารีวิวหลังการใช้มาให้ดูนะคะ ขอใช้ให้นานกว่านี้สักพักก่อนเพื่อผลลัพธ์ที่แน่นอนนะคะ

ขอสรุปนะคะ
:: ข้อดี ::
- เนื้อครีมหรือเนื้อเซรั่มบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมเข้าผิวหนังได้รวดเร็ว
- มีส่วนประกอบที่บอกว่าช่วยลดเลือนผิวคล้ำเสียและรอยดำจากสิว ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักส่วนประกอบสักตัว แต่เราก็เชื่อค่ะ ว่ามันช่วยให้เราขาวได้จริงๆ 555
- ไม่ทำให้หน้าบางลง และเหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย 

:: ข้อเสีย :: 
- ราคาแพงไปหน่อย สำหรับวัยเรียน
- ขัดใจค่ะ เนื่องจากมันทำแพคเกตมาแบบ 5 หลอด ทั้งๆที่เป็นครีมตัวเดียวกัน เลยรู้สึกหงุดหงิดนิดนึงเวลามันจะหมดแล้วต้องไปหยิบหลอดใหม่มาใช้ 555
- ไม่เหมาะสำหรับคนขี้เกียจค่ะ เหตุผลตามด้านบน

จะซื้อมาใช้อีกหรือไม่ ?
- ซื้อค่ะ เพราะใช้แล้วรู้สึกว่ามันดีขึ้น

รวมคะแนน  ♥ ♥ ♥ ♥ 
( เต็ม 5 นะคะ )
                


มาต่อกับตัวที่ 2 กันเลย

ชื่อผลิตภัณฑ์ :: Eucerin White Therapy Whitening Body Lotion
ขนาด :: 250 ml.
ค่าตัว :: ราคาเต็ม 420 บาท แต่เราซื้อมาในราคา 325 บาทค่ะ 

               พบกับบอดี้โลชั่น ที่แสนใจดีแถมกันแดดมาให้ด้วยในปริมาณ SPF ถึง 7 !! ( ใส่มาแค่นี้ไม่ต้องใส่มาให้มันหนักขวดหรอกค่ะคุณพี่ ) แต่ด้วยความอยากขาว เอาน่ะ ทาตัวขาวก็ยังดี เรื่องเนื้อครีมก็ลื่นๆ เบาๆ บีบออกมานิดเดียวก็ทาได้ทั้งแขนและขาเลยค่ะ มีกลิ่นหอมนิดๆ แนะนำให้ใช้ช่วงกลางคืนนะคะ เพราะถ้าใช้กลางวันตอนออกไปนอกบ้านก็คงต้องโบกกันแดดเพิ่มด้วย เพราะกันแดดที่แถมมาในขวดนั้นคงจะกันได้แต่แสงจากหลอดไฟนีออนมั้งคะ โดยรวมก็ถือว่าโอเคค่ะ หลังจากใช้แล้วก็รู้สึกผิวดูนุ่มขึ้นไม่แห้งกร้าน ส่วนเรื่องความขาวนั้น .. เน้นหนักไปทางซ่อมแซมดูแลผิวฟื้นฟูมากกว่า คงจะต้องใช้ต่อไปอีกสักพัก

ขอสรุปนะคะ
:: ข้อดี ::
- ทาได้ทั่วถึง ประหยัดค่ะ เวลาทาใช้ครีมน้อย กลิ่นหอมใช้ได้
- มีสารกันแดดให้ ถึงแม้จะน้อยนิดเพียง 7 แต่ก็ต้องซาบซึ้งกับความใจดีของทางยูเซอรีนค่ะ
- ใช้แล้วผิวนุ่มขึ้นค่ะ 

:: ข้อเสีย ::
- ราคาเต็มแพงไปค่ะ ถ้าไม่ลดก็คงไม่ซื้อมาใช้ค่ะ
- ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าขาวจริงหรือไม่ แต่มีแนวโน้มว่าอาจจะไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ค่ะ 555

จะซื้อต่อหรือไม่ ?
- อาจจะซื้อค่ะ เพราะถ้าใช้แล้วมันขาวขึ้นจริงๆ แต่ถ้าไม่ก็ขอบาย กลับไปใช้สมูทอีเหมือนเดิมดีกว่า

รวมคะแนน  ♥ ♥ ♥ 
( เต็ม 5 นะคะ )


รีวิวหน้าจะมารีวิว ในเซตของแถมที่ได้มาจากการซื้อรอบนี้นะคะ มีสามชิ้นคือ
- โลชั่น PH5
- กันแดด SPF 50
- เดย์ครีม เป็นเนื้อ Fluid สำหรับผิวหน้ามัน-ผิวผสม

แล้วพบกันรีวิวหน้า ขอบคุณที่ทนอ่านจบจนค่ะ :))
               

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

:: Review ครั้งที่สี่ :: กับ LOREAL PARIS White Perfect Day Cream / Night Cream หรือสองสหาย ใช้แล้วร้องว้ายตาเถร !!

ชื่อผลิตภัณฑ์ :: LOREAL PARIS White Perfect Day Cream / Night Cream
ขนาด  :: 50 ml.
ค่าตัว  :: ราคาเต็ม จำไม่ได้ค่ะ ซื้อมารู้สึกจะสองอันประมาณ 500 กว่าบาท


รีวิวนี้ขออนุญาตแบ่งเป็นเดย์กับไนท์นะคะ


               สวัสดีอีกครั้งค่ะ อย่าเพิ่งรีบเบื่อกันไปก่อนนะคะ จะมีใครติดตามมาจากรีวิวครั้งแรกมั้ยน้อ ถ้ามีตรงไหนไม่ดี ติได้เลยนะคะจะได้แก้ไขให้ค่ะ เข้าเรื่องดีกว่า ครีมกระปุกนี้เราซื้อมานานมาก ซื้อมาเพราะช่วงนั้นมีพี่พลอย เฌอมาลย์ออกมาเป็นพรีเซนเตอร์และแถมเป็นครีมรุ่นใหม่ล่าสุดของซีรีย์นี้ออกมาซะด้วย ไอเราก็จะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไรกันเล่า จึงรีบบึ่งออกไปยังร้านประจำเพื่อจับจองรอรีอัลมาไว้ในอ้อมกอดให้ได้ ได้ครีมนี้มาสองกระปุกเป็นเดย์และไนท์อย่างละอัน ยังค่ะยังไม่พอค่ะ ยังมีเซรั่มของรอรีอัลที่เป็นมีสองหัว เวลากดใช้จะมีครีมออกมาสองสีให้ผสมกัน มาอีกอันหนึ่งอันละสามร้อยกว่าๆมั้ง ขอบ่นกับไอตัวสองหัวก่อนนะคะ ใช้ไปจนจะหมด เยี่ยมมากเลยค่ะ ก่อนใช้กับหลังใช้ไม่ได้เกิดความแตกต่างขึ้นสักกะนิดเลย แต่ขอชื่นชมนะคะ ที่แม้มันจะไม่ให้ประโยชน์อะไรแก่ใบหน้าเรา แต่มันก็ไม่ทำให้หน้าเราแพ้ค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
                 ถึงคราวของเดย์ครีมบ้าง ตายๆ จบไปตั้งย่อหน้านึง ยังไม่ได้พูดถึงเดย์ครีมเลย 555 มาต่อกันดีกว่าๆ พอได้มา แพคเกจโอเคค่ะ มาพร้อมกล่องหนึ่งใบ ครีมใส่มาในกระปุกรู้สึกจะเป็นแก้ว แข็งแรงดี ฝาปิดก็แน่นหนา พอเปิดมาจะจบครีมสีขาว เนื้อครีมไม่หนัก กลิ่นหอมใช้ได้ พอพลิกไปหลังกระปุกก็มีเซอร์ไพรส์เขียนว่า SPF17/PA+++ ว้าว!! มีกันแดดด้วย นี่มันครีมในฝันเลย มาๆลองทาหน่อยละกัน ไม่รีรอ เรารีบเอาโปะลงบนหน้า ค่อยๆถูให้ทั่วหน้าๆ เห้ย ครึมเนื้อมันก็ไม่หนักนิ ทำไมมันไม่ซึมสักที ถูๆไปสักพัก เอ้ย ครีมไม่ซึม กลายเป็นหน้าเราขาววอกขึ้นมาทันที โอ้โห ขาวตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ สุดยอดไปเลย พอลองเอาไปทามือเพื่อนที่ผิวออกคล้ำหน่อย สุดยอดค่ะ คนคล้ำตอนนี้ผิวขาวไปแล้วค่ะ ขาวแบบหมองๆนะคะ กลุ้มเลยค่ะ ครีมนี้ทำท่าจะดี แต่มาตายตอนจบซะอย่างนั้น แต่ก็นะ ซื้อมาแล้วก็ทนๆใช้ละกัน วันรุ่งขึ้นตอนเช้า ทาหลังอาบน้ำ รอบนี้ครีมมาแนวเดิมนอกจะไม่ซึมและทำให้หน้าขาววอกแล้ว ยังเป็นขุยๆที่หน้าอีก ก็เลยพอกันทีกับครีมตัวนี้ ปัจจุบันมันได้ผันตัวเองไปเป็นที่ทับกระดาษแล้วค่ะ  55555 
                   ส่วนเรื่องช่วยความกระจ่างใสนั้น ให้มันเป็นปริศนาต่อไปค่ะ เพราะเราทนใช้กับมันไม่ไหวจริงๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ

ขอสรุปนะคะ
:: ข้อดี ::
- ใช้แล้วหน้าขาวดีค่ะ เหมือนโบกปูนไว้เลย แถมมีกันแดดแถมเป็นออฟชั่นเสริมให้อีกด้วย
- หอมค่ะ แค่นี้ค่ะ

:: ข้อเสีย ::
- ซึมก็ช้า ทาแล้วก็ไม่เห็นผล แถมทำหน้าเป็นขุยอีก
- เมื่อเอาราคาเทียบกับคุณสมบัติที่ได้หลังใช้แล้ว อยากจะร้องไห้จริงๆค่ะ

จะซื้อมาใช้อีกหรือไม่ ?
- ไม่แน่นอนซื้อค่ะ ให้ฟรีก็ไม่เอาแล้วค่ะ ใครที่คิดจะซื้อตัวนี้แนะนำให้เก็บเงินไว้ดีกว่าค่ะ 

รวมคะแนน  ครึ่ง ♥  ( ให้เพราะกลัวลอรีอัลไทยแลนด์เสียใจนะเนี่ย )   
( เต็ม 5 นะคะ )


           
               เอาล่ะค่ะต่อกันด้วยไนท์ครีม ไม่คิดเลยว่าจะยาวขนาดนี้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ พิมพ์แล้วมันเพลินเลยยาวไปหน่อย ถ้ายาวไปคอมเมนต์บอกเลยนะ เราจะได้ลดปริมาณลง 
               หลังจากเดย์ครีมทำไว้เจ็บแสบ เราต้องมาลองของต่อกับไนท์ครีมบ้าง เหมือนเดิมค่ะ แพคเกจดี กระปุกแน่นหนา แต่ข้างในนี่สิจะเป็นยังไง เปิดออกมาจะพบครีมสีออกม่วงอ่อน สีสวยเข้ากับกระปุก เนื้อครีมค่อนข้างเหลว เหลวกว่าเดย์ครีมมาก กลิ่นก็คล้ายๆกัน พอลองทาดู ก็พบกว่า เนื้อครีมลื่นมาก และเหมือนจะซึมเร็วดี แต่!! แต่มาอีกแล้ว 55 มันซึมเร็วก็จริง แต่เราว่ามันเหมือนทาแล้วแห้งช้าอ่ะค่ะ มันเลยทำให้รู้สึกหน้ามันๆ ลื่นๆ เหนอะๆ ยังไงไม่รู้ แต่ไม่ทำให้หน้าเป็นขุยเหมือนครีมตัวแสบข้างบนแน่นอน แต่เราไม่ชอบตรงที่มันทาแล้วรู้สึกเหนอะๆนี่แหละ ตัวนี้ใช้ไปสักพักก็ไม่ได้หยิบมาทาแล้วอ่ะค่ะ เพราะว่าพาลครีมตัวบนเลยไม่ใช้มันทั้งเซตเลย สรุปแล้วไม่ได้มีความรู้ให้เล้ยยย 5555
                 เรื่องความขาวบอกตรงๆว่า เฉยๆมากค่ะ อาจเป็นเพราะใช้ไม่ต่อเนื่่องด้วยมั้งคะ เลยไม่เห็นผลเท่าที่ควร        

ขอสรุปนะคะ
:: ข้อดี ::
- เนื้อซึมได้ดี กลิ่นหอม

:: ข้อเสีย ::
- ทาแล้วเหนอะหนะมากค่ะ เหมือนมีคนเอา
- เวลาไปซื้อชอบโดนเชียร์ให้ซื้อเป็นเซตหรือไม่ก็จะเจอแบบจัดเซต แล้วก็จะต้องซื้อเดย์ครีมรุ่นปูนตราเสือ มาด้วยค่ะ เลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ( เหตุผลส่วนตัวล้วนๆเลย 555 )


จะซื้อมาใช้อีกหรือไม่ ?
- ไม่ซื้อแล้วค่ะ พอก่อนกับซีรีย์ไวท์ เฟอร์เฟคของรอรีอัล

รวมคะแนน  ♥   
( เต็ม 5 นะคะ )

แล้วพบกันรีวิวหน้า ขอบคุณที่ทนอ่านจบจนค่ะ :))

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

:: Review ครั้งที่สาม :: กับ KOSE SEIKISHO MASK White หรือชื่อในวงการ มาร์กกระชากวิญญาณนั่นเอง !!

ชื่อผลิตภัณฑ์ :: KOSE SEKKISEI Lotion
ขนาด  :: 75 ml.
ค่าตัว  :: ราคาเต็ม 800 กว่าบาท แต่เราฝากน้องซื้อจากกรุงเทพเป็นร้านอะไรไม่รู้ประมาณ 400 กว่าๆค่ะ

           สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้งกับผลิตภัณฑ์ของโคเซ่ หลังจากกระแสน้ำโสมที่โด่งดังผ่านพ้นไป ซึ่งก็ได้มีเทรนมาร์กหน้ามาอีกแล้ว ซึ่งรอบนี้มีคนแนะนำจากในเวปว่า โคเซ่ มาร์กไวท์ ว่ามันดีนะ ใช้แล้วหน้าใส อย่างโน้นอย่างนี้ แถมมีฉายา มาร์กกระชากวิญญาณ แถมให้อีก คิดในใจจะเอาอีกดีหรือเปล่าน้า  5555 แต่สุดท้ายผีนักชอปก็เข้าสิง เลยฝากน้องซื้อและได้มันมาครอบครองสมใจ และอยากรู้ว่ามันจะกระชากวิญญาณสมคำร่ำรือหรือไม่
           ได้มาครั้งแรก ลักษณะเป็นเหมือนครีม เนื้อสีดำ กลิ่นออกเย็นๆค่ะ ขอยอมรับเลยค่ะว่าไม่เคยใช้มาร์กแบบนี้ เคยใช้แต่แบบแผ่นแปะทั่วหน้า ก็เลยไม่รู้ฤทธิ์เดชของมัน จัดแจงชะโลมทั่วใบหน้า โดยที่ไม่ได้ระมัดระวังคิ้วสักเท่าไหร่นัก เราก็นั่งรอมันแห้ง พอมันแห้งเท่านั้นแหละค่ะ ค่อยๆลอกออก เอ้ะ!! ทำไมมันติดแน่นจัง ก็ค่อยๆลอก บางจุดก็เจ็บค่ะยิ่งบริเวณแก้มนี่รู้เรื่องเลยทีเดียว จนถึงบริเวณคิ้วค่ะ แคว้ก!! สุดจะบรรยายจริงๆ เข้าใจถึงกิตติศัพท์ของคำว่า "มาร์กกระชากวิญญาณ" ขึ้นมาทันที แนะนำว่าต้องลองเองนะคะของแบบนี้ 555 พอลอกออกทั้งหน้าก็ไปล้างเพราะมันออกไม่ค่อยหมด มีคราบมาร์กติดอยู่บ้าง พอใช้เสร็จรู้สึกว่า เออดีแหะ หน้ามันรู้สึกเบาๆบอกไม่ถูก แถมเราไม่แพ้อีกด้วย คิดว่าไอตัวนี้ก็น่าจะมีแอลกอฮอล์ผสมแต่เราไม่แพ้ ดีและ ค่อยคุ้มค่าเงินหน่อย แต่ว่าไม่ประทับใจตรงจมูกค่ะ เพราะเรามีสิ้วเสี้ยนอยู่บ้าง ซื้อมาร์กนี้มาก็หวังจะเอาสิวเสี้ยนออกไปจากชีวิต แต่ปรากฎว่า ไม่ประสบความสำเร็จค่ะ ถึงแม้ว่ามาร์กมันลอกสิ่งสกปรกออกจากใบหน้าได้ดี โดยเฉพาะขนคิ้ว แต่ว่ามันเอาสิวเสี้ยนออกไปไม่ได้ค่ะ เลยแอบผิดหวังเล็กๆ อาจเพราะสิวเสี้ยนเราอาจฝังแน่นเองก็ได้ แต่ก็โอเค มาร์กอาทิตย์ละครั้ง รู้สึกสดชื่นดีค่ะ
           

ขอสรุปนะคะ
:: ข้อดี ::
- มาร์กแล้วรู้สึกสะอาดดีค่ะ กลิ่นเย็นๆ สบายๆ
- คิดว่าประหยัดอยู่นะคะ เพราะขวดนึงเราใช้มาร์กเกือบสิบครั้งแล้วยังไม่หมดเลย
- เราใช้แล้วไม่แพ้ คุ้มค่าเงินค่ะ 5555

:: ข้อเสีย ::
- เวลามาร์กแล้วจะเม้าส์กับเพื่อนลำบากค่ะ หน้าตึงและกลัวมาร์กย่น
- ไม่สามารถกำจัดสิวเสี้ยนบนจมูกให้ออกไปจากชีวิตได้ค่ะ
- ถ้าทาไม่ระวัง คิ้วอาจหายหรือแหว่งได้ค่ะ 

จะซื้อมาใช้อีกหรือไม่ ?
- ซื้อค่ะ ถ้ามีทุน

รวมคะแนน  ♥ ♥ ♥ ♥  
( เต็ม 5 นะคะ )

แล้วพบกันรีวิวหน้า ขอบคุณที่ทนอ่านจบจนค่ะ :))

วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

:: Review ครั้งที่สอง :: กับ KOSE SEKKISEI Lotion หรือน้ำโสมอันชื่อเสียงเลื่องลือ !!


ชื่อผลิตภัณฑ์ :: KOSE SEKKISEI Lotion
ขนาด  :: 200 ml.
ค่าตัว  :: ราคาเต็ม 1505 บาท ซื้อตอนช่วงลด 10 % ซึ่งเป็นโปรของห้างโลโก้สีเขียว จึงได้มาในราคาประมาณ 1300 นิดๆค่ะ
           
              สวัสดีค่ะ พบกับเราเหมือนเดิม วันนี้ขอนำไอเทมเก่าๆมารีวิวหน่อย เพราะช่วงนั้นไอเทมชิ้นนี้ถือว่าฮอทฮิตมากทั้งในเวปและในหมู่เพื่อนของเรา เพราะเมื่อก่อนพอไปห้องเพื่อนคนไหนก็จะเจออีขวดสีฟ้าฝาขาววางอยู่บนโต๊ะในห้องกันทั้งนั้น เราก็ไม่รู้หรอกว่าคืออะไร จนวันนึงได้หาข้อมูลจากในอินเตอร์เนตเห็นสรรพคุณช่วยในเรื่องความขาว กิเลศเกิดค่ะ อยากเสียเงินขึ้นทันที แต่พออ่านในสักพักก็ต้องสะดุดตรงคำว่ามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะว่าผิวเราแพ้ง่าย เลยไม่กล้าเสี่ยงกับแอลกอฮอล์ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราใช้ไม่ได้ ต้องหาเหยื่อค่ะ เราเลยแนะนำให้เพื่อนลองซื้อมาใช้ดู พอได้ฟังสรรพคุณร้อยแปดประการ ปรากฎว่าเพื่อนเชื่อเราค่ะ ไปซื้อเลย 55555 เราไม่ได้หลอกให้เพื่อนไปเหยื่อนะคะ เราแค่แนะนำสิ่งดีๆให้แล้วก็อยากรู้ด้วยว่ามันขาวจริงมั้ยเท่านั้นเอง จริงๆนะ 
             หลังจากที่เพื่อนได้ทดลองใช้ ประมาณ 1 เดือน ก็รู้สึกว่า พึงพอใจกับมันนะคะ ถึงแม้ว่าจะมีกลิ่นแรงของแอลกอฮอล์ ( แน่นอนอยู่แล้วสิ ) เวลาใช้ก็ประหยัดมาก เพราะใช้น้ำโสมเพียง 3-4 หยด ลงบนมือก็สามารถทาได้ทั่วหน้าแล้ว ทาแล้วต้องตบเบาด้วยนะคะ เพราะบีเอบอกมา ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันค่ะ ไม่กล้าถาม 555 หลังจากทาทั่วหน้าจะรู้สึกได้ถึงน้ำโสมเลยว่าซึมเข้าหน้าได้เร็วมาก แปปเดียวแห้งหมดเลย รวมถึงหน้าด้วย เมื่อใช้แล้วจะรู้สึกหน้าแห้งมาก แต่เพื่อนเราผิวผสมเลยไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่ค่ะ 
              เรื่องความขาว ยังตัดสินไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะใช้ช่วงแรกมันก็ว่าขาวขึ้น แต่ใช้ไปสักพักมันก็บอกขาวได้แค่นี้แหละ ไม่ขาวขึ้นละ เลยตัดสินไม่ได้ว่าน้ำโสมนี้มันทำให้ขาวดุจหิมะได้หรือไม่ แต่เพื่อนคนอื่นที่ใช้ก็บอกว่าขาวขึ้นนะคะ คงอยู่ที่แล้วแต่บุคคลด้วย

ขอสรุปนะคะ
:: ข้อดี ::
- ขึ้นชื่อในเรื่องการทำให้หน้าขาวขึ้นดุจหิมะ
- ประหยัดค่ะ เพราะว่าขวดนึงใช้ได้นานมาก เพื่อนเราใช้มาสักพักแล้วน้ำโสมยังลดไม่ถึงตัวหนังสือด้านหน้าขวดเลยค่ะ

:: ข้อเสีย ::
- ราคาค่อนข้างสูง ถึงแม้จะลด 10 เปอร์เซ็นมันก็ยังแพงอยู่ดีค่ะ
- ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่แพ้แอลกอฮอล์ เพราะมีแอลกอฮอล์ผสมอย่างชัดเจนมาก แต่ !! มีสูตรไร้แอลกอฮอล์นะคะ ขวดจะเป็นสีขาว และราคาก็แน่นอนค่ะ แพงกว่าแบบปกติไปอีก
- ใช้แล้วจะรู้สึกหน้าแห้ง ต้องหาครีมเพิ่มความชุ่มชื้นทาเพิ่ม

จะซื้อมาใช้อีกหรือไม่ ?
- สำหรับเราคงไม่เพราะใช้ไม่ได้

รวมคะแนน  ♥ ♥ ♥
( เต็ม 5 นะคะ )

แล้วพบกันรีวิวหน้า ขอบคุณที่ทนอ่านจบจนค่ะ :))

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

:: Review ครั้งแรก :: กับ Smooth E White Therapie Ultimate Whitening Therapeutic Lotion หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นครีมที่ชื่อยาวติดอันดับของโลก !!

ชื่อผลิตภัณฑ์ :: Smooth E White Therapie
ขนาด  :: 200 ml.
ค่าตัว  :: ราคาเต็มประมาณ 420 กว่าบาท แต่ซื้อมาประมาณ 320 บาทนิดๆค่ะ          

          สวัสดีค่ะทุกๆท่านที่หลงเข้ามาในบล๊อคนี้ ทั้งที่ตั้งใจเข้าเองหรือมือพลาดไปคลิ๊กโดนนะคะ 5555 วันนี้เราขออนุญาตนำสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันมารีวิวหน่อยละกัน หลังจากที่เมื่อก่อนเวลาว่างๆก็จะหาดูรีวิวต่างๆที่พี่ๆท่านอื่นทำไว้ วันนี้ขอริอาจเป็นคนรีวิวเองหน่อยละกันค่ะ เริ่มกันเลยดีกว่า บ่นอยู่คนเดียวนานไปแล้วเนอะ 
               วันนี้เราขอเริ่มด้วย Smooth E ที่มีชื่อเต็มที่สุดแสนจะอลังการงานสร้างมากกับ Smooth E White Therapie Ultimate Whitening Therapeutic Lotion (ชื่อครีมกินเนื้อที่เกือบหนึ่งบรรทัดค่ะ 5555 ) เป็นครีมบำรุงผิวที่เหมือนเป็นรุ่นน้องของ Smooth E  Skin Therapie ที่ราคาถูกกว่าเกือบร้อยบาท เพราะว่าก่อนซื้อเราได้แอบไปลองพลิกอ่านส่วนประกอบของสองขวดนี้ดู ปรากฎว่า ส่วนประกอบเหมือนกันเด้ะ !! แต่เห็นว่าตัวนี้ออกมาใหม่ล่าสุด ก็เลยตัดสินใจว่า ไหนๆขวดนี้เค้าก็พรีเซนต์ว่า ไวท์เทอร่าปี้ขนาดนั้น ลองสอยมาหนึ่งขวดละกัน ซึ่งแพคเกจของครีมนี้ก็ถือว่าใช้ได้เลย ขวดสีขาวมาในกล่องใส ฝาปิดด้านบนปิดสนิทดีค่ะ ไม่หลวม ขวดเป็นหัวปั้มนะคะ แต่จะมีปัญหาอยู่คือ ตอนใช้ครั้งแรก เรากดปั้มครีมออกมายังไงมันก็ไม่ยอมออก กดไปเป็นสิบครั้งได้กว่ามันจะยอมออก ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอากาศในขวดหรือมันไม่อยากให้เราใช้ก็ไม่รู้ หลังจากสักพักที่ปลุกปล้ำกับหัวปั้มที่ไม่ยอมให้ครีมออกมาให้เราใช้สักพักหนึ่ง มันก็ยอมจำนนโดยเนื้อครีมที่ออกมาเป็นสีขาว เนื้อครีมจะออกหนักๆหน่อย อารมณ์ประมาณครีมเภสัชก็ว่าได้ แต่เรื่องกลิ่นนี่ดีกว่ากันเยอะค่ะไม่ต้องห่วง 555 เป็นกลิ่นออกมะลิ เมื่อลองทาโดยกดออกมาประมาณในภาพข้างบน ก็เพียงพอสำหรับแขนสองข้างแล้วค่ะ ไม่ค่อยเปลือง แถมครีมยังซึมเข้าผิวค่อนข้างไว ต้องรีบทานะคะ เพราะถ้าทาแล้วทิ้งไว้แปปเดียวมันก็แห้งละ เดี๋ยวจะได้กดครีมาทาใหม่ มันเปลืองค่ะ 555 พอทาเสร็จจะรู้สึกค่อนข้างเหนอะๆหน่อย บางคนอาจจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่สำหรับเราก็โอเคนะ มันรู้สึกชุ่มชื่นดี ยิ่งหน้าหนาวยิ่งชอบเลย แต่หน้าร้อนก็นะ ทาไปละลายหายหมด อ้อ ครีมนี้ไม่มีส่วนผสมของกันแดดนะคะ เพราะว่ามันไม่ได้เขียนไว้อ่ะค่ะ เลยคิดว่าไม่มี 55555 ( ไม่ได้มีความรู้สักนิดเล้ยยย )
                  หลังจากใช้มาสักระยะก็รู้สึกว่าโอเคกับมันค่ะ ลองให้เพื่อนซื้อมาใช้อีกขวด เค้าก็โอเคนะคะ เรื่องความขาวของครีมนั้นรู้สึกได้ว่ามันขาวขึ้นเพราะว่าบริเวณแขนที่สีผิวไม่สม่ำเสมอจากรอยแดดเริ่มจะเป็นสีเดียวกันบ้างแล้ว ขาก็ขาวขึ้นจึ๋งนึง ไม่รู้ว่าขาวขึ้นจริงๆหรือว่าอุปทาน แต่คงเป็นอุปทานหมู่ค่ะ เพราะว่าเพื่อนมันก็ว่ามันขาวขึ้นเหมือนกัน 5555

ขอสรุปนะคะ
:: ข้อดี ::
- ครีมซึมง่าย กลิ่นหอม ทาได้ทาดีทาทั้งวัน
- หาซื้อได้ง่าย

:: ข้อเสีย ::
- ก่อนใช้หัวปั้มดื้อค่ะ กดแล้วครีมไม่ออก ต้องใช้กำลัง อาจทำให้เป็นนักกล้ามได้
- ราคาหนักใจสำหรับนักศึกษาอย่างเราค่ะ เพราะสามร้อยนี่อาจทำให้เราต้องกินมาม่าไปหลายวันเลย
- ไม่มีส่วนผสมของกันแดด ทำให้เราต้องหากันแดดตัวอื่นมาทาเพิ่มเอง
- ถ้าคนที่ไม่ชอบเนื้อครีมหนักๆ อาจจะทำให้เมื่อทาครีมแล้วรู้สึกว่ามันเหนียวๆตัวได้นะคะ 

จะซื้อมาใช้อีกหรือไม่ ?
- ซื้อค่ะ

รวมคะแนน  ♥ ♥ ♥ ♥ 
( เต็ม 5 นะคะ )

แล้วพบกันรีวิวหน้า ขอบคุณที่ทนอ่านจบจนค่ะ :))